เมื่อลูกเรียนออนไลน์ พ่อแม่ต้องปรับตัวอย่างไร ?
————————————————————————————————————————————
เมื่อการเรียนออนไลน์ทำร้ายทุกคน
“หนูไม่อยากเรียนออนไลน์ เรียนแล้วไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
“ลูกเรียนออนไลน์แล้วเครียดมาก ไม่มีสมาธิเลย แม่ก็เครียด เพราะต้องทำงานและต้องคุมลูกเวลาเรียนไปด้วย”
————————————————————————————————————————————
เสียงบ่นมากมายทั้งจากเด็กๆ และพ่อแม่ เมื่อต้องกลับมาเรียนออนไลน์อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น
- ดูแลจิตใจตนเอง
การยอมรับและเข้าใจว่าการเรียนออนไลน์ไม่เหมือนการเรียนปกติ พ่อแม่ควรเตรียมตัวและจัดการความเครียดของตนเอง เพื่อให้การดูแลลูกๆ ราบรื่นขึ้นและเรียนรู้การปล่อยวาง หากมีปัญหาติดขัดจริงๆ สามารถแจ้งคุณครูหรือขอคำปรึกษาทางคนทีไว้ใจได้
- ไม่เรียนติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง (หากิจกรรมคั่น)
การนั่งอยู่เฉยๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ นอกจากจะทำให้เกิดความเครียด สมาธิสั้น ประสิทธิภาพการเรียนลดลงและการจ้องจอคอมนานๆ ก็ทำให้สายตาเสียได้ พ่อแม่จึงควรให้เด็กๆ ได้มีเวลาพักจากการนั่งเรียนอยู่เฉยๆ ตรงหน้าจอไปยืดเส้นสายหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ผ่อนคลายบ้าง
- เรียนไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่มีสมาธิบ้าง ก็ไม่เป็นไร
การเรียนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเดียว ย่อมไม่เหมือนการเรียนในห้องเรียน ที่มีปฎิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครู การที่พ่อแม่คาดหวังว่าต้องเรียนได้เทียบเท่าการเรียนปกติจะทำให้กดดันและเครียดทั้งต่อลูกและพ่อแม่เอง
หากพ่อแม่ท่านใดเป็นห่วงหรือกังวลเรื่องการเข้าใจในบทเรียน อาจจะต้องใช้วิธีช่วยลูกทบทวนบทเรียนในแต่ละวัน โดยให้ลูกทำแผนผังความคิด (mind map) เพื่อสรุปบทเรียนคร่าวๆ ซึ่งสามารถนำกลับมาทบทวนในช่วงเวลาก่อนสอบได้ หรือหากคุณพ่อคุณแม่อยากได้ตัวช่วยเสริมสมาธิ บำรุงสมอง ช่วยให้น้องมีสมาธิ จดจ่อกับการเรียนได้ดีขึ้น เสริมการจดจำ
แนะนำเป็น Alpha-B ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดชาเขียว (l-theanine) ช่วยในการปรับสมดุลคลื่นสมองให้น้องมีสมาธิ จดจ่อ ผ่อนคลายความเครียดได้ดี
ขอบคุณที่มา : https://www.netpama.com/Library/detail/127